Themes เปรียบได้ดังหน้าตาของเว็บไซต์ ถ้าพูดถึงการทำเว็บในยุคแรก ก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก เนื่องจากเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการออกแบบเว็บไซต์มีน้อยมาก เพราะเขียนโค้ดเพียงอย่างเดียว มีความยุ่งยากสุดๆ แต่ในปัจจุบันนี้ รูปแบบของ Theme ได้มีการพัฒนาไปมาก นอกจากความสวยงามของเว็บไซต์แล้ว ยังได้มีการสอดแทรกฟังก์ชั่นในการทำงานด้านต่างๆ เพิ่มเข้าไปด้วย
ประเภทของ Themes แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบฟรีและแบบเสียเงิน เว็บไซต์ที่มีใช้ Themes สวยงาม จะแสดงออกถึงความชำนาญของเจ้าของเว็บซึ่งมีทักษะสูง ทำให้ดูมีความน่าเชื่อถือ ส่วนเว็บที่ใช้ Themes แบบดั้งเดิม ซึ่งระบบให้มา มักสร้างเว็บออกมาได้ไม่ค่อยเป็นเอกลักษณ์ ไม่อาจดึงดูดให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์กลับเข้ามาอีก ซึ่งคุณเห็นได้ว่า Themes เป็นส่วนโครงสร้างที่สำคัญอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวกำหนดความสำเร็จของเว็บไซต์ นั้นได้เลย
เลือก Themes ให้เหมาะกับเว็บไซต์
ก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่าตัวเองกำลังทำเว็บเกี่ยวกับอะไร เพื่อจะได้เลือก Themes ให้เข้ากันกับเนื้อหาของเว็บไซต์ โดยการเลือก Themes ต้องเลือกตามหมวดหมู่ เช่น ถ้าคุณทำเว็บเฉพาะด้านอย่าง เช่น e – Commerce , นิตยสาร , ข่าว , การท่องเที่ยว ก็จะเหมาะกว่าถ้าเลือก Themes เฉพาะด้านนั้นไปเลย Themes เฉพาะด้านเหล่านี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเราได้มากขึ้น แถมยังสวยงามอีกด้วย
ใช้เวลาศึกษา Themes ให้ดี
ให้เวลากับการศึกษาปรับแต่ง Themes นั้นๆ คือ ต้องรู้ว่าต้องจัดวางอะไรตรงไหนได้ยังไงบ้าง เพราะเกือบทุก Themes จะต้องมี Document คือ คู่มือที่จะทำให้เรารู้ว่าควรปรับแต่งอะไรบ้าง และ ถ้าเรามีความเชี่ยวชาญมากพอก็สามารถทำเว็บออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ เป็นตัวสร้างเงินและอาชีพให้แก่คุณได้มากมายอีกด้วย
ดู Demo ของ Themes ก่อนตัดสินใจเลือกใช้
เป็นการดูตัวอย่างขณะออนไลน์จริงๆ นั่นเอง เนื่องจากบาง Themes จะมีตัวอย่างหลากหลายแบบเพื่อให้เราได้มองภาพออกว่ามันสามารถปรับแต่งได้ยังไงบ้าง รวมทั้ง มีฟังชั่นพิเศษอะไร จุดเด่น จุดด้อยของ Themes นั้นๆ และสามารถนำไปต่อยอดในอนาคตอย่างไร
มีระบบลิงค์ภายในที่ดี
การมีระบบลิงค์ภายในของเว็บที่ดีจะทำให้ Search Engine Robots สามารถเก็บข้อมูลไปแสดงผลได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น นอกจากหน้า Post ของบทความซึ่งสามารถนำไปอันดับบนผลการค้นหาได้แล้วนั้น ในส่วนของหน้า Category และ หน้า Tag ก็นำไปติดอันดับได้เช่นเดียวกัน โดยระบบลิงค์ภายในของเว็บที่ยอดเยี่ยม จะช่วยให้การทำอันดับได้ดีขึ้นมาก
Theme จะต้องรองรับการแสดงผลต่ออุปกรณ์บนมือถือ
ควรตรวจสอบว่า Theme ที่เลือกใช้เป็น Mobile Friendly หรือไม่ รวมทั้งรองรับ Responsive view จากอุปกรณ์ประเภทอื่นๆ ได้ไหม เพราะอย่าลืมว่าสมัยนี้คนใช้โทรศัพท์ในการเข้าเว็บมากกว่าคอมพิวเตอร์ ถ้า Theme ของคุณไม่รองรับการแสดงบนมือถือ ก็จะส่งผลให้คนเข้าเว็บไซต์ของคุณน้อยลงนั่นเอง